ถ้ำพระยานคร
ถ้ำพระยานครเป็นถ้ำขนาดใหญ่ในบริเวณแหลมศาลา เพดานถ้ำมีปล่องให้แสงสว่างลอดเข้ามาได้ ด้านล่างเป็นป่า ต้นไม้ค่อนข้างสูงชะลูด ถ้ำพระยานครถูกค้นพบกว่า 200 ปีมาแล้ว โดยพระยานครผู้คลองเมืองนครศรีธรรมราชแต่ไม่ทราบนาม ขณะที่ขึ้นฝั่งมาหลบพายุภายในถ้ำ
ภายในถ้ำมีโบราณสถานที่สำคัญคือพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ เป็นพลับพลาจตุรมุข สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อ พ.ศ.2433 พระที่นั่งนี้ใช้เป็นตราประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในปัจจุบัน
ต่อมาพระบาทสมเด็จประปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 เสด็จมาที่ถ้ำพระยานคร ในปี พ.ศ.2469 ซึ่งมีลายพระหัตถ์ของทั้งสองพระองค์อยู่ที่ผนังถ้ำ
และรัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จประพาสเยือน 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2501 และเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2524
เพราะฉะนั้น ถ้ำพระยานนครแห่งนี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง จนกระทั่งเป็น ตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เส้นทางไปสู่ถ้ำพระยานครจะห่างจากหาดแหลมศาลานี้ตามทางเดินขึ้นเขาประมาณ 430 เมตร และตามความสูง130 เมตร ใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที
อยู่บริเวณเขาเทียน ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 16 กิโลเมตร บริเวณหาดมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ห้องอาบน้ำจืด หาดอยู่หน้าทางเข้าถ้ำพระยานคร เป็นหาดลักษณะคล้ายแหลมยื่นออกไปในทะเล มีภูเขาปิดล้อมทั้งสองด้าน เพราะคลื่นและลมไม่แรง สามารถเล่นน้ำทะเลได้เนื่องจาก มีเกาะสัตกูดบังกระแสลมและคลื่นตลอดแนว
จากถนนปราณบุรี-ปากน้ำปราณบุรี เลี้ยวขวาเข้าอุทยานฯ ตรงไปถึงสี่แยกบ้านบางปู เลี้ยวซ้ายทางบ้านบางปู ข้ามสะพานคลองบางปูถึงตีนเขาเทียน จากนั้นต้องเดินเท้าข้ามเขาเทียนไปประมาณ 530 เมตร ถึงหาดแหลมศาลา หรือ ใช้บริการเหมาเรือจากบ้านบางปูไปหาดแหลมศาลา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
หรือจะเช่าเรือ ชมรอบเกาะซึ่งอยู่ไม่ห่างจากชายฝั่ง ตั้งอยู่ใกล้กันสี่เกาะ ได้แก่ เกาะระวาง เกาะระวิง เกาะโครำ ซึ่งชื่อของเกาะถูกตั้งเนื่องจากมีคนเห็นโครำ หรือเลียงผายืนอยู่ตามหน้าผาของเกาะนี้เสมอ และเกาะ นมสาวที่อยู่ใกล้ชายฝั่งและมีลักษณะคล้ายเต้านม จึงเรียกชื่อเกาะนมสาว บนเกาะมีศาลเจ้าแม่นมสาวตั้งอยู่ด้วย
และแล้วprachuaptown.comก็ เลือกที่จะนั่งเรือรอบเกาะต่างๆ ก่อนที่เรือจะวนกลับไปส่งที่ชายหาดแหลมศาลา
ระหว่างทางมีบ่อพระยานคร ซึ่งขุดในสมัย รัชกาลที่ 1แห่งกรุงรัตน์โกสินทร์โดยเจ้าประยานครศรีธรรมราช เจ้าเมืองนครศรีธรรมราชในครั้งที่เดินทางเข้ากรุงเทพ โดยทางเรือ ซึ่งครั้งหนึ่งที่นำเรือเข้าหลบพายุ ในบริเวณหาดแหลมศาลานี้ เป็นเวลาหลายวันจึงได้ขุดบ่อน้ำนี้ไว้ใช้ ชาวบ้านจึงเรียกว่าบ่อพระยานคร
- น้ำตกแห้ง
- สะพานมรณะ
- ทางสันจระเข้
- หินรูปเจดีย์
- พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์
- ลายพระหัตถ์
- อัฐิหลวงพ่อเงิน
- ต้นซุ้มรอดคู่
- หินจระเข้
- ต้นไม้มีพิษ
จนได้รู้ว่าที่ได้ชื่อว่า สะพานมรณะ เนื่องจาก จะมีสัตว์ป่าตกลงมาตาย อยู่บ่อยครั้ง นั่นเอง
ตามคู่มือท่องเที่ยว 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
และหากท่าน ต้องการชมความงดงามของ พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ เราขอแนะนำ ให้นักท่องเที่ยว เดินทางมาถึงภายในถ้ำพระยานคร ในช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ในช่วงหน้าร้อนเดือน มีนาคม ถึงเมษายนเพราะจะเป็นช่วงที่แสงแดดส่องผ่านปล่องเบื้องบนสู่พลับพลาที่ประทับพอดี