บ้านประจวบโชค

บ้านประจวบโชค
การท่องเที่ยว มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เชิงเกษตร เชิงอนุรักษ์ เชิงสร้างสรรค์ เชิงวัฒนธรรม เชิงสุขภาพ เชิงการศึกษา

แต่สำหรับที่นี่ บ้านประจวบโชค ผมไม่แน่ใจว่าจะจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประเภทไหน หรืออาจจะไม่จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเลยก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็อยากเป็นสื่อนำเสนอให้ที่นี่เป็นอีกที่หนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวได้แวะมา

และหากว่า บ้านประจวบโชค นี้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ผมก็คิดว่าคงเป็นการท่องเที่ยวเชิงพัฒนาจิตใจและคุณภาพชีวิต ทั้งผู้มาเยือนและผู้ที่อยู่ที่นี่

บ้านประจวบโชค
บ้านประจวบโชค
สถานสงเคราะห์ประจวบคีรีขันธ์ หรือ บ้านประจวบโชค
สถานสงเคราะห์ประจวบคีรีขันธ์ มีภารกิจให้การอุปการะเลี้ยงดูบุคคลไร้ที่พึ่ง เร่ร่อน ขอทาน ผู้พิการทางจิตที่ไม่มีผู้รับดูแล ตาม พ.ร.บ.สุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑ และผู้ประสบปัญหาทางสังคมที่ขาดไร้ผู้อุปการะ ไร้ที่พักพิง โดยให้บริการที่พักอาศัย ปัจจัยสี่ สิ่งของจำเป็น รวมถึงการฟื้นฟูพัฒนาให้สามารถช่วยเหลือตนเองและกลับคืนสู่สังคมได้
บ้านประจวบโชค
บ้านประจวบโชค
ในวันนี้ 25 สิงหาคม 2555 ครอบครัวของผม ได้มาทำบุญเลี้ยงอาหารที่บ้านประจวบโชคเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของพี่ชาย นอกจากนั้นยังมีเพื่อนๆของพี่สาวและพี่ชาย จากโรงพยาบาลกุยบุรี และโรงพยาบาลประจวบฯ
บ้านประจวบโชค
เมื่อเข้าไปในตอนแรกรู้สึกกังวลและรู้สึกไม่เบิกบาน เนื่องจากผู้ที่พักฟื้นที่นี่เป็นผู้พิการทางจิต กว่า 250 คน เพราะฉะนั้นรูปผู้พักฟื้นอยู่ที่นี่ผมจะเบลอภาพ เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลนะครับ
ในระหว่างที่ขับรถเข้าไปที่โรงอาหารของบ้านประจวบโชคนั้น ผู้พักฟื้นหลายคนที่อยู่ริมทาง จะผายมือเชิญเราเข้าไปบางคนปะแป้งจนหน้าขาวเป็นภาพที่น่ารักมาก
บ้านประจวบโชค
เมื่อถึงโรงอาหาร ผู้พักฟื้นจะเข้ามาสวัสดี เรียกเราว่าพี่ พ่อหรือแม่ ต้อนรับด้วยรอยยิ้ม แล้วมาช่วยเรายกของ ทำให้ความรู้สึกกังวลหายไป
บ้านประจวบโชค
บ้านประจวบโชค
บ้านประจวบโชค
และมีอีกคณะหนึ่งจาก ชมรม 2 ภาษาศิลป์ นำอาหารมาเลี้ยง พร้อมกับข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ
บ้านประจวบโชค
บ้านประจวบโชค
บ้านประจวบโชค
บ้านประจวบโชค
บ้านประจวบโชค
เมื่อถึงเวลาทานอาหารผู้พักฟื้น จะเข้าแถวกันเป็นระเบียบ และมีผู้พักฟื้นบางส่วนที่ไม่สามารถมาทานอาหารที่โรงอาหารได้ ผู้ดูและจึงต้องนำอาหารไปที่อาคารพัก

และเมื่อทุกคนได้อาหารแล้ว จะเดินเข้าไปที่โต๊ะรับประทานอาหาร วางอาหารไว้แล้วยืนขึ้น รอจนกว่าเพื่อนจะได้อาหารครบทุกคนก่อน ผู้ดูแลจึงให้สัญญาณรับประทานอาหารได้โดยพร้อมกัน

บ้านประจวบโชค
บ้านประจวบโชค
เราได้พูดคุยกับผู้ดูแลที่บ้านประจวบโชคนี้ ผู้พักฟื้นจะได้เงินสนับสนุนจากรัฐ เป็นจำนวนเงิน 60 บาทต่อคนต่อวัน นั่นหมายถึงค่าอาหาร 3 มื้อและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่างๆ

ในวันที่ไม่มีผู้มาเลี้ยงอาหาร ผู้พักพื้นจึงต้องทานอาหารตามที่บ้านประจวบโชคจัดไว้ให้ตามที่มีอย่างจำกัด

บ้านประจวบโชค
บ้านประจวบโชค
บ้านประจวบโชค
บ้านประจวบโชค
ผู้ดุแลได้ให้ข้อมูลกับเราว่า บ้านประจวบโชคนี้ รับผู้ป่วยตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป โดยผู้พักฟื้นจะมาจากหลายๆจังหวัด และนอกจากจะต้องดูแลเรื่องอาหารและความเป็นอยู่ ยังต้องดูแลเรื่องการบำบัดและฟื้นฟูสภาพจิตใจด้วย
ผู้พักฟื้นหลายคน เคยเป็นผู้ใช้ชีวิตตามปกติแบบคนทั่วไป บางคนเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่เมื่อเกิดปัญหาจากครอบครับ และงาน จนกระทั่งส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ จึงทำให้กลายเป็นผู้พิการทางจิต

บางคนที่พักฟื้นและบำบัด จนสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ ก็กลับออกไป แต่บางคนที่ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติก็ต้องอยู่พักฟื้นกันต่อไป

ผู้ดูแลได้บอกกับเราว่า จำนวนผู้พักฟื้นจะมีเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จากตอนแรกมีไม่กี่สิบคน แต่ตอนนี้เพิ่มมาเป็น 250 คน และคงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

สิ่งของที่ขาดแคลนก็จะเป็นพวก ข้าวสาร อาหารแห้ง สบู่ ยาสีฟัน ผ้าอนามัย ตลอดจนเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันต่างๆ สามารถนำมาบริจาคได้ หรือหากจะบริจาคเป็นเงิน ก็จะมีกองทุนมูลนิธิสงเคราะห์คนพิการไร้ที่พึ่งสถานสงเคราะห์ประจวบคีรีขันธ์ ดูรายละเอียดได้ที่ สถานสงเคราะห์ประจวบคีรีขันธ์

บ้านประจวบโชค
บ้านประจวบโชค
และเมื่อทุกคนรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ก็จะร้องเพลงขอบคุณผู้ที่มาเลี้ยงและบริจาคสิ่งของ
บ้านประจวบโชค
ไม่ใช่เรื่องผิดที่นักท่องเที่ยวหลายท่าน ต้องการห้องพักหรูหรา อาหารราคาแพง ซื้อของแบรนด์เนม ความสะดวกสบาย ในการพักผ่อนเพื่อเป็นของขวัญให้ชีวิตจากการทำงานอย่างหนัก

แต่หากท่านลดความสะดวกสบายลงเพียงนิดหน่อย และนำมาแบ่งปันช่วยเหลือ อีกหลายชีวิตอาจจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและท่านอาจจะได้รับความสุขจากการเป็นผู้ให้

เมื่อเราขับรถออกไป ผู้พักฟื้นจะออกมาคอยยิ้มบ้าง ไหว้บ้าง โบกมือลาบ้าง

ผมจึงคิดว่าที่นี่อาจจะเป็นสถานที่ ที่ท่านเข้ามาแล้วรู้สึกกังวลและไม่เบิกบาน แต่เมื่อท่านออกไปท่านจะรู้สึกมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และนอกจากการให้แล้วสิ่งที่ได้รับก็คือบุคคลในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่จะได้มีความสุขจากการทำบุญ ลูกหลานเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้ และตัวของคุณเองที่จะมีพลังใจมากขึ้นเพื่อต่อสู้กับปัญหาต่างๆต่อไป